BMW i7 รุ่นปี 2025: สู่ยุคใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าสุดหรู
BMW ประเทศไทย ได้เปิดตัว BMW i7 ใหม่ ยนตรกรรมซีดานพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่มาพร้อมนิยามใหม่แห่งความหรูหรา ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบรับกระแส EV (Electric Vehicle) ที่กำลังมาแรงในปี 2025 การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BMW ในการเป็นผู้นำ รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่มอบประสบการณ์การขับขี่และภาพลักษณ์ที่เหนือระดับ
BMW i7 รุ่นปี 2025 ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “FORWARDISM” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมแห่งอนาคตและสุนทรียศาสตร์แห่งการขับขี่ที่ BMW ยึดมั่นมาอย่างยาวนาน ด้วยเทคโนโลยี แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ประสิทธิภาพสูง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง ทำให้ BMW i7 กลายเป็นหนึ่งใน รถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าจับตามองที่สุดในตลาดปัจจุบัน
ราคาจำหน่ายและการกำหนดค่า: ตัวเลือกเพื่อการปรับแต่งที่เหนือระดับ
BMW i7 รุ่นปี 2025 มีให้เลือกสรรในหลากหลายรุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของผู้บริโภค พร้อมราคาที่สะท้อนถึงความพรีเมียมและเทคโนโลยีที่อัดแน่น
BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition): ราคาจำหน่าย 7,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
BMW i7 xDrive60 M Sport: ราคาจำหน่าย 7,849,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso: ราคาจำหน่าย 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
การนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าหรู ในราคาที่แข่งขันได้ พร้อมแพ็คเกจการดูแลรักษาที่ครอบคลุม ถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของ BMW ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025
ดีไซน์ภายนอก: เอกลักษณ์แห่งอนาคตที่น่าหลงใหล
BMW i7 ใหม่ สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบภายนอกที่ผสมผสานความหรูหราสง่างามเข้ากับเส้นสายแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว จุดเด่นที่สำคัญคือ กระจังหน้าไตคู่ อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ที่มาพร้อมกับ กรอบเรืองแสง Iconic Glow สร้างความโดดเด่นในยามค่ำคืน ไฟหน้า Adaptive LED ที่ทำงานร่วมกับระบบปรับองศาตามการเข้าโค้ง และการประดับด้วย ชุดไฟหน้าคริสตัล Swarovski “Iconic Glow” ที่ประกอบด้วย LED 22 ดวง ส่องผ่านคริสตัล สร้างประกายระยิบระยับเมื่อผู้ขับขี่เข้าใกล้รถ มอบประสบการณ์การต้อนรับที่เหนือระดับ
การออกแบบยังคงเน้นความสปอร์ตตามสไตล์ M Sport ด้วยชุดแต่งรอบคัน รวมถึงสปอยเลอร์หลังที่เสริมความเฉียบคม เส้นสายแนวนอนบริเวณตัวถังด้านหลังมอบความรู้สึกโอ่อ่าและทรงพลัง พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมที่สะท้อนถึงความสง่างาม ไฟท้ายรูปทรงตัว “L” ที่มาพร้อมรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก ทำให้ BMW i7 ดูมีมิติและโดดเด่นยิ่งขึ้น
ในส่วนของล้ออัลลอย BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มาพร้อมล้อ M Aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ที่ตกแต่งสี Titanium Bronze ลายสามมิติ ส่วนรุ่น BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) และ BMW i7 xDrive60 M Sport มาพร้อมล้อ M น้ำหนักเบา ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี เพิ่มความสง่างามและสมรรถนะ
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์การขับขี่คือ ช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ซึ่งทำงานร่วมกับ ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งในรุ่น Gran Lusso ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและมั่นคงในทุกสภาพถนน
นอกจากนี้ BMW i7 ยังมาพร้อม ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ และ ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู ที่ทำงานได้อย่างเงียบเชียบและนุ่มนวล สำหรับรุ่น BMW i7 xDrive60 M Sport และ BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ยังเสริมด้วย ระบบเปิดและปิดประตูอัตโนมัติ มอบความสะดวกสบายขั้นสูงสุด
ดีไซน์ภายใน: ห้องโดยสารแห่งอนาคตที่มอบประสบการณ์อันน่าทึ่ง
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ BMW i7 ใหม่ คือการเดินทางสู่อีกระดับของความหรูหราและความสะดวกสบาย เบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชัน ที่รองรับทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลาย ระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง และระบบระบายอากาศที่ช่วยให้รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างอิสระในแต่ละพื้นที่ มอบอากาศบริสุทธิ์และคุณภาพอากาศที่ดีเยี่ยมให้กับทุกคน
วัสดุภายในเลือกใช้ M Alcantara สำหรับบุหลังคา เพิ่มความรู้สึกพรีเมียม ส่วนการตกแต่งภายในเลือกใช้วัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M และคอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black สะท้อนความประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด
ระบบ BMW Live Cockpit Professional มอบการแสดงข้อมูลรถยนต์ที่ชัดเจนและไม่รบกวนสมาธิระหว่างขับขี่ ทำงานร่วมกับ BMW ConnectedDrive ที่เชื่อมต่อรถยนต์กับโลกภายนอกได้อย่างชาญฉลาด เพิ่มความอุ่นใจด้วย Telematics Service และบริการด้านการจราจร รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือ และระบบความบันเทิงครบครัน
หลังคากระจกพาโนรามา “Sky Lounge” ที่ออกแบบขึ้นใหม่ มอบความรู้สึกโปร่งโล่ง กว้างขวาง และสะดวกสบาย ด้วยกระจกบานใหญ่ที่ให้ทัศนียวิสัยที่สวยงาม พร้อม เส้นแสง LED อัจฉริยะ ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้หรูหราและผ่อนคลาย
BMW i7 ใหม่ ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุดเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการขับขี่ที่เพลิดเพลินและสะดวกสบายอย่างแท้จริง ระบบ “My Modes” และระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่และบรรยากาศภายในรถได้อย่างใจต้องการ
ไฮไลท์สำคัญคือ จอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display, แถบ BMW Interaction Bar ที่ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย, ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น, หน้าจอ BMW Head-up Display และฟังก์ชัน Augmented View ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกบนจอแสดงข้อมูลหลังพวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่และรถยนต์สื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อยกระดับประสบการณ์ความบันเทิง BMW i7 มาพร้อม BMW Theatre Screen จอภาพแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา เปลี่ยนห้องโดยสารตอนหลังให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัวสุดพิเศษ ผู้โดยสารสามารถปรับเบาะหลังให้กลายเป็นเลาจน์ส่วนตัว และเลือกโปรแกรมความบันเทิงจากหลากหลายบริการสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มที่
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบระบบเสียง BMW i7 ติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond คุณภาพระดับสตูดิโอ ประกอบด้วยลำโพงทั้งหมด 39 ตัว มอบกำลังขับรวมกว่า 1,965 วัตต์ สร้างประสบการณ์เสียงที่สมจริงและประทับใจให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
สมรรถนะและประสิทธิภาพ: พลังไฟฟ้าที่ไร้ขีดจำกัด
BMW i7 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 400 กิโลวัตต์ หรือ 544 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ผสานกับการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 เช่นเดียวกับใน BMW iX มอบอัตราเร่งที่ทรงพลังและตอบสนองฉับไว
แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนแรงดันสูงขนาด 105.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP มอบระยะทางขับเคลื่อนสูงสุดถึง 625 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ทำให้ BMW i7 เป็น รถยนต์ไฟฟ้าพิสัยไกล ที่ตอบโจทย์การเดินทางได้อย่างแท้จริง
อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 4.7 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยืนยันถึงสมรรถนะที่เหนือชั้นของ ยนตรกรรมไฟฟ้า รุ่นนี้
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัย: มาตรฐานสูงสุดเพื่อความอุ่นใจ
BMW i7 ใหม่ อัดแน่นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เพื่อมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดในทุกการเดินทาง ระบบ Driving Assistant Professional พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและฟังก์ชัน Stop & Go ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยลดภาระของผู้ขับขี่ในสภาวะการจราจรที่หลากหลาย
ระบบปรับองศาของล้อหลัง (Integral Active Steering) ช่วยให้การบังคับทิศทางคล่องแคล่วขึ้นอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือเมื่อต้องจอดรถในพื้นที่จำกัด
ในด้านความปลอดภัย BMW i7 มาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครอบคลุม เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor), ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection), ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง เพื่อความปลอดภัยของคนเดินเท้า, ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และ ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist)
ตัวเลือกสีภายนอกและการตกแต่ง: สะท้อนบุคลิกที่เป็นคุณ
BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) มีให้เลือกเฉพาะสี Black Sapphire Metallic เพื่อความหรูหราเหนือกาลเวลา
สำหรับรุ่น BMW i7 xDrive60 M Sport มีสีตัวถังให้เลือกหลากหลายถึง 8 สี ได้แก่:
Black Sapphire Metallic
Mineral White Metallic
Oxide Grey Metallic
Brooklyn Grey Metallic
Carbon Black Metallic
Aventurine Red Metallic
Tanzanite Blue Metallic
Dravit Grey Metallic
รุ่น BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สร้างสรรค์การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย สีภายนอกแบบทูโทน โดยสามารถจับคู่สีตัวถังกับสีหลังคาได้ถึง 2 สี ได้แก่ Black Sapphire Metallic และ Oxide Grey Metallic พร้อมตัวเลือกสีตัวถังอีก 5 สี ได้แก่:
Black Sapphire Metallic
Oxide Grey Metallic
Aventurine Red Metallic
Tanzanite Blue Metallic
Dravit Grey Metallic
โปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard: ความอุ่นใจที่มาพร้อมกับรถ
BMW i7 ใหม่ มาพร้อมโปรแกรม BMW Services Inclusive (BSI) Standard สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาสูงสุด 4 ปี หรือไม่จำกัดระยะทางสำหรับการรับประกันทั่วไป และการบริการดูแลบำรุงรักษา การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจะครอบคลุมสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน)
การบำรุงรักษาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะมีกำหนดเข้ารับบริการทุก 24 เดือน โดยครอบคลุมรายการสำคัญ เช่น การตรวจเช็ครถ, การเปลี่ยนไมโครฟิลเตอร์, การเปลี่ยนน้ำมันเบรก, การชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงหลังการให้บริการ (สูงสุด 75%-80%), การเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน (ปีละหนึ่งครั้ง) และการเปลี่ยนชุดเบรกหน้าและหลัง 1 ชุด (รวมผ้าเบรกและจานเบรก) โดยกำหนดการเปลี่ยนไม่ขึ้นอยู่กับระยะทาง
อนาคตแห่งยนตรกรรมทางเลือก: Power of Choice
หลังจากการเปิดตัว BMW i7 ใหม่ ในประเทศไทย BMW ยังคงตอกย้ำแนวคิด “Power of Choice” ด้วยการเตรียมเปิดตัว BMW ซีรีส์ 7 ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งผลิตในประเทศ ในปี พ.ศ. 2566 เพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภคชาวไทย
BMW i7 รุ่นปี 2025 ไม่ใช่เพียงแค่ รถยนต์ไฟฟ้า แต่คือสัญลักษณ์แห่งอนาคตแห่งยนตรกรรม ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะอันน่าทึ่ง เทคโนโลยีล้ำสมัย และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและก้าวสู่ยุคใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้า เชิญมาสัมผัส BMW i7 ใหม่ ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ทั่วประเทศ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw.co.th แล้วคุณจะค้นพบว่าอนาคตของการขับเคลื่อนนั้นน่าตื่นเต้นเพียงใด

