BMW i7 โฉมใหม่: ก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าพรีเมียม ปี 2567
ในโลกยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าได้กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนอนาคต และ BMW ประเทศไทย ได้ยกระดับนิยามของรถยนต์ซีดานพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัว BMW i7 โฉมใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการอัปเกรดทางเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการประกาศศักดาถึงวิสัยทัศน์ “FORWARDISM” ของแบรนด์ ที่มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์การขับขี่แห่งยุคใหม่ที่ผสมผสานความหรูหรา ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
BMW i7 โฉมใหม่ ปี 2567 นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มองหารถยนต์ที่ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงตัวตน ไลฟ์สไตล์ และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยตัวเลือก 3 รุ่นย่อยที่มอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ที่มองหาสุดยอดแห่งยนตรกรรมไฟฟ้า
BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition): ราคาจำหน่าย 7,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
BMW i7 xDrive60 M Sport: ราคาจำหน่าย 7,849,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso: ราคาจำหน่าย 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
การออกแบบภายนอก: ความสง่างามที่เปล่งประกาย
BMW i7 โฉมใหม่ แสดงออกถึงความโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกของ BMW เข้ากับเส้นสายอันล้ำสมัย ไฟหน้า Adaptive LED แบบมาตรฐาน พร้อมระบบปรับองศาตามการเข้าโค้ง มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ยิ่งไปกว่านั้น ไฮไลท์ที่ทำให้ BMW i7 โดดเด่นคือชุดไฟหน้าคริสตัล Swarovski “Iconic Glow” อันน่าทึ่ง ประกอบด้วยหลอด LED กว่า 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัล สร้างปรากฏการณ์แสงระยิบระยับดุจอัญมณี เมื่อผู้ขับขี่เข้าใกล้รถ กระจังหน้าไตคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ก็ส่องสว่างขึ้นมาอย่างมีระดับ พร้อมกับไฟส่องสว่างรอบตัวรถ สร้างประสบการณ์ต้อนรับที่น่าประทับใจและหรูหรา
รายละเอียดการตกแต่งภายนอก เน้นการใช้สีดำเงาตัดกับตัวถัง เพิ่มความสปอร์ตและดุดันตามสไตล์ M Sport สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M เสริมบุคลิกอันทรงพลังให้กับด้านท้ายของรถ เส้นสายแนวนอนที่เน้นความโอ่อ่า ผสานกับการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม สะท้อนถึงความสง่างามเหนือระดับ ไฟท้ายรูปทรงตัว ‘L’ ที่มาพร้อมรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก สร้างมิติและความโดดเด่นให้กับส่วนท้ายรถ
สำหรับรุ่นย่อย BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso โดดเด่นด้วยล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งสี Titanium Bronze ขัดเงาลายสามมิติ ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ในขณะที่ BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) และ BMW i7 xDrive60 M Sport มาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี ที่สะท้อนถึงความปราณีตในการออกแบบ
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ มอบความนุ่มนวลและเสถียรภาพในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่น BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ที่มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro อันเป็นเอกสิทธิ์พิเศษ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับยิ่งกว่า
เพื่อเสริมความสะดวกสบายสูงสุด BMW i7 ยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่ให้คุณสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจ พร้อมระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตูที่เงียบเชียบและนุ่มนวล และสำหรับรุ่น BMW i7 xDrive60 M Sport และ BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ยังมอบประสบการณ์เหนือชั้นด้วยระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายในทุกการเข้า-ออก
การออกแบบภายใน: ห้องโดยสารแห่งอนาคตและความสบายเหนือระดับ
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ BMW i7 โฉมใหม่ คือการเข้าสู่โลกแห่งความหรูหรา นวัตกรรม และความสบายที่ไร้ขีดจำกัด เบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชันได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบความสบายสูงสุดแก่ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลาย ระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง และระบบระบายอากาศที่ช่วยรักษาความสบายในทุกสภาพอากาศ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างอิสระ มอบอากาศบริสุทธิ์และคุณภาพอากาศที่ดีที่สุดในห้องโดยสาร
วัสดุตกแต่งภายในสะท้อนถึงความประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด หลังคา M Alcantara เติมเต็มความหรูหรา ส่วนการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักทอด้วยวัสดุสีเงินแบบ M และคอนโซลกลางสีดำเงา Piano Finish Black สร้างบรรยากาศที่สปอร์ตและทันสมัย
ระบบ BMW Live Cockpit Professional มอบข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน โดยไม่รบกวนสมาธิระหว่างการขับขี่ ระบบ BMW ConnectedDrive เชื่อมต่อรถยนต์เข้ากับโลกภายนอกอย่างชาญฉลาด พร้อมบริการ Telematics Service และข้อมูลการจราจรที่แม่นยำ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่พัฒนาขึ้น ครอบคลุมทุกการเดินทาง
หลังคากระจกพาโนรามา “Sky Lounge” ที่ได้รับการออกแบบใหม่ มอบความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวาง และสบายตา เส้นแสง LED อัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนได้ ช่วยเสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้หรูหราและน่าประทับใจยิ่งขึ้น
BMW i7 โฉมใหม่ ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เพลิดเพลินอย่างแท้จริง ระบบ “My Modes” รุ่นใหม่ และระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่และบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้ตามต้องการ ระบบ BMW Curved Display อันโดดเด่น แถบ BMW Interaction Bar ที่ตอบสนองต่อการสัมผัส ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ระบบ BMW Head-up Display และฟังก์ชัน Augmented View ที่แสดงข้อมูลสำคัญบนจอแสดงผลหลังพวงมาลัยเป็นครั้งแรก ช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับประสบการณ์ความบันเทิงระดับโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ BMW i7 มอบ “BMW Theatre Screen” หน้าจอพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว ความละเอียด 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา แปลงโฉมห้องโดยสารด้านหลังให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัว ผู้โดยสารสามารถปรับเปลี่ยนเบาะหลังให้เป็นเลาจน์สุดหรู และเพลิดเพลินกับคอนเทนต์สตรีมมิ่งหลากหลายรูปแบบ
ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond ที่มีลำโพงกว่า 39 ตัว กำลังขับรวมกว่า 1,965 วัตต์ มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพระดับสตูดิโอที่สมจริง ให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงโปรดได้อย่างเต็มอรรถรส
สมรรถนะและประสิทธิภาพ: พลังไฟฟ้าที่เหนือชั้น
BMW i7 โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มอบพละกำลังรวม 400 กิโลวัตต์ (544 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ มอบการตอบสนองที่ฉับไวและทรงพลังในทุกช่วงการขับขี่
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 105.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ร่วมกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน ส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP มอบระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 625 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ทำให้คุณมั่นใจได้ในทุกการเดินทาง
BMW i7 โฉมใหม่ มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบ Integral Active Steering หรือระบบปรับองศาของล้อหลัง ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเข้าโค้งและการจอดรถ ทำให้การบังคับควบคุมทำได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ
ความปลอดภัย: อุ่นใจในทุกการเดินทาง
BMW i7 โฉมใหม่ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน, ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง, ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง, ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) เพื่อให้คุณและผู้โดยสารอุ่นใจในทุกเส้นทาง
สีสันแห่งสไตล์: เลือกสรรเพื่อสะท้อนตัวตน
BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) มาพร้อมสีดำ Black Sapphire Metallic อันหรูหรา เพื่อสะท้อนความสง่างามอย่างมีระดับ
สำหรับ BMW i7 xDrive60 M Sport มีตัวเลือกสีภายนอกถึง 8 สี ได้แก่:
สีดำ Black Sapphire Metallic
สีขาว Mineral White Metallic
สีเทา Oxide Grey Metallic
สีเทา Brooklyn Grey Metallic
สีดำ Carbon Black Metallic
สีแดง Aventurine Red Metallic
สีน้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic
สีเทา Dravit Grey Metallic
ในส่วนของ BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ลูกค้าสามารถเลือกสีทูโทนอันเป็นเอกลักษณ์ โดยจับคู่สีหลังคา 2 สี คือ สีดำ Black Sapphire Metallic และสีเทา Oxide Grey Metallic กับสีตัวถัง 5 สี ได้แก่:
สีดำ Black Sapphire Metallic
สีเทา Oxide Grey Metallic
สีแดง Aventurine Red Metallic
สีน้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic
สีเทา Dravit Grey Metallic
โปรแกรมบำรุงรักษา BSI: ความอุ่นใจที่มาพร้อมบริการ
BMW i7 โฉมใหม่ มาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BMW Services Inclusive (BSI) Standard สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ครอบคลุมการรับประกันนานสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบริการดูแลบำรุงรักษาสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงและอุปกรณ์ร่วม นานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน) การบำรุงรักษาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะมีกำหนดเข้ารับบริการทุก 24 เดือน โดยครอบคลุมรายการสำคัญต่างๆ เช่น บริการตรวจเช็ครถ, เปลี่ยนไมโครฟิลเตอร์, เปลี่ยนน้ำมันเบรก, ชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงหลังการให้บริการ (สูงสุด 75%-80%), เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน (ปีละหนึ่งครั้ง) และเปลี่ยนชุดเบรกหน้าและหลัง 1 ชุด (รวมผ้าเบรกและจานเบรก)
อนาคตแห่งการขับเคลื่อน: BMW Series 7 Plug-in Hybrid
นอกจาก BMW i7 โฉมใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าเต็มรูปแบบแล้ว BMW ประเทศไทย ยังเตรียมเปิดตัว BMW Series 7 ใหม่ รุ่น Plug-in Hybrid ที่ผลิตในประเทศในปี พ.ศ. 2566 เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Power of Choice” ที่จะมอบทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภคชาวไทย
BMW i7 โฉมใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า แต่คือการประกาศวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของการขับขี่ที่ผสานความหรูหรา ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมอย่างลงตัว หากคุณพร้อมสัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตของยนตรกรรมพรีเมียมไฟฟ้า เชิญเยี่ยมชมโชว์รูม BMW หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ทั่วประเทศ เพื่อค้นพบว่า BMW i7 โฉมใหม่ สามารถยกระดับการขับขี่ของคุณไปสู่อีกระดับได้อย่างไร.

